4 ประเภท เครื่องมือช่างพื้นฐาน
4 ประเภท เครื่องมือช่างพื้นฐาน เครื่องมือช่างถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยให้ช่างและผู้ประกอบอาชีพสามารถสร้างรายได้จากงานของตนได้. โดยเฉพาะในอาชีพที่ต้องการความชำนาญและความสามารถพิเศษ, เครื่องมือช่างมีบทบาทสำคัญในการทำให้งานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้คือตัวอย่างของอาชีพที่อาจพบการใช้เครื่องมือช่างอย่างสำคัญมีหลายประเภทตามงานและการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่นี่คือ 4 ประเภทเครื่องมือช่างพื้นฐานที่สำคัญ

เครื่องมือช่างประเภทเจาะ : เป็นเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการเจาะหรือสร้างรูในวัสดุเพื่อติดตั้งสกรู, สลักหรือเจาะรูสำหรับสายไฟหรือท่อ หรือทำงานอื่น ๆ ที่ต้องการรูหรือรอยแทรกในวัสดุต่าง ๆ โดยมีหลายประเภทของเครื่องมือช่างประเภทเจาะ
สว่านไฟฟ้า: สว่านไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่ใช้เจาะรูในวัสดุต่าง ๆ โดยใช้กำลังไฟฟ้า เครื่องมือนี้มีความหลากหลายในขนาดและกำลังมากพอที่จะเหมาะกับงานต่าง ๆ
สว่านมือ: สว่านมือเป็นเครื่องมือที่มีหุ่นยนต์มือที่ใช้หมุนรอบแกนเพื่อเจาะรู และควบคุมด้วยมือ สว่านมือมักถูกใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำ เช่น งานที่ใช้สกรูหรือติดตั้งสิ่งของ
สว่านแนวตั้ง (Drill Press): เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับเจาะรูในวัสดุ มีโต๊ะและข้อต่อที่ช่วยให้เจาะรูอยู่ในตำแหน่งที่แม่นยำ เป็นที่นิยมในการทำงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การสร้างโครงสร้างไม้หรือโลหะ
สว่านอิเล็กทรอนิก: เป็นสว่านที่ใช้กำลังไฟฟ้าแบบอิเล็กทรอนิก มักมีขนาดเล็กและใช้งานได้ง่ายในงานที่ต้องการความคล่องตัว เช่น การเจาะรูในพื้นผิวแนวดิ่ง
เครื่องมือช่างประเภทเจาะเป็นส่วนสำคัญของงานช่างและการก่อสร้าง ทำให้งานที่เกี่ยวข้องกับการตัดและเจาะวัสดุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำขึ้น

เครื่องมือช่างประเภท “จับยืด” (หรือเครื่องมือช่างประเภท “คีม”) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการยึดและดึงวัสดุออกเพื่อทำให้วัสดุเปราะหรือยืดเส้นตรง หรือใช้ในการปรับรูปวัสดุเพื่อให้เข้ากับรูปแบบหรือขนาดที่ต้องการ ตัวอย่างเครื่องมือช่างประเภทจับยืดมีดังนี้
คีมมือ (Pliers): คีมมือเป็นเครื่องมือช่างที่มีคีมมือเปิดปิดเพื่อยึดและดึงวัสดุ เครื่องมือชนิดนี้มีหลายรูปแบบ เช่น คีมตัดสาย, คีมหกเหลี่ยม, คีมหัวทรงกลม เป็นต้น แต่หลักการใช้งานคือเหมือนกันคือการจับและดึงวัสดุ
คีมยิง (Vise): คีมยิงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยึดและยืดวัสดุต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งที่คงที่ มักมีลูกยิงที่สามารถปรับระดับความสูงและตำแหน่งได้ เครื่องมือชนิดนี้มักใช้ในการงานกลุ่มเหล็กหรืองานโลหะอื่น ๆ
ปากกาช่วยยืด (Stretching Pliers): เป็นคีมที่มีคุณสมบัติพิเศษในการยืดวัสดุเช่นลวดหรือเส้นให้ยาวขึ้น ปากกาช่วยยืดมักใช้ในงานงานที่ต้องการความแม่นยำเช่นงานทำเครื่องปั้นและงานฝีมือ
คีมปั้น (Bending Pliers): คีมปั้นใช้ในการปรับรูปวัสดุเช่นแผ่นโลหะหรือลวดเพื่อให้มีรูปแบบหรือความเคียงต่าง ๆ คีมปั้นมักมีปลายที่เป็นคล้องเพื่อทำให้ง่ายต่อการโค้งและยัดข้อมืองาน
เครื่องมือช่างประเภทจับยืดเป็นส่วนสำคัญของงานช่างและการประกอบอาชีพต่าง ๆ และมีหลายประเภทและขนาดให้เลือกใช้ตามงานและวัสดุที่ต้องการการใช้งาน ความแม่นยำและความเป็นมืออาชีพสำคัญในการใช้งานเครื่องมือช่างประเภทนี้ให้ออกมาได้ดีที่สุด

ค้อน (Hammer) เป็นเครื่องมือช่างที่มีลักษณะหัวโลหะที่ถูกติดตั้งบนขดลวดหรือก้านไม้และใช้ในกระบวนการตีหรือโค้งวัสดุ ค้อนมีหลายประเภทและขนาดต่าง ๆ ที่ใช้ในงานช่างและการก่อสร้างต่าง ๆ
ค้อนมีด (Claw Hammer): ค้อนมีดเป็นค้อนที่มีด้ามที่มีรูปร่างคล้ายกับมีดในด้าม ปลายค้อนมีดมีส่วนคล้ายเสือขาดที่ใช้สำหรับถอดสกรูหรือเสาไม้
ค้อนซัดเล็ก (Ball Peen Hammer): ค้อนซัดเล็กมีหัวทรงกลมที่หนาและหัวทรงลูกบอลที่แหวนด้านหลัง มักใช้ในงานที่ต้องการการซัดแบบแม่นยำบนวัสดุเหล็ก
ค้อนตีแบบจับ (Sledge Hammer): ค้อนตีแบบจับมีหัวใหญ่และใช้ในงานที่ต้องการกำลังมาก เช่น งานก่อสร้างที่ต้องตีฝาครอบหรือขูดขอบหิน
ค้อนตีแบบผ้าใบ (Cross Peen Hammer): ค้อนตีแบบผ้าใบมีหัวทรงบั้งไฟที่หนาและผ้าใบที่แหวนด้านหลัง มักใช้ในงานเช่นการซัดแบบแม่นยำหรือการรูปร่างวัสดุ
ค้อนเบ็ด (Rubber Mallet): ค้อนเบ็ดมีหัวที่ทำจากวัสดุอ่อน เช่น ยาง มักใช้ในการกระทบหรือโค้งวัสดุโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
ค้อนเป็นเครื่องมือช่างที่ใช้กว้างขวางในงานช่างและการก่อสร้าง เป็นส่วนสำคัญของช่างในการตีหรือยิงวัสดุเพื่อเปลี่ยนรูปแบบหรือให้เข้ากับที่ต้องการในการสร้างงาน การใช้งานค้อนต้องปฏิบัติตามความระมัดระวังและความรู้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและให้ผลงานที่แม่นยำและคุณภาพดี

ตลับเมตร (Vernier Caliper) เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ในการวัดความยาว, ความกว้าง, หรือความหนาของวัสดุแบบแม่นยำมาก โดยมักใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำเช่นงานช่างโลหะ, งานประดับ, งานช่างไม้ตลับเมตรมีการออกแบบเพื่อให้วัดได้อย่างแม่นยำและเป็นไปตามหน่วยวัดมาตรฐาน เช่น มิลลิเมตร (mm) และนิ้ว (inch).
คุณสมบัติสำคัญของตลับเมตรประกอบด้วย:
บรรจุการวัดระยะที่มีสเกลเดียว: ตลับเมตรปกติมีสเกลในการวัดระยะที่อยู่ที่ด้านบนของตลับ เช่น สเกลมิลลิเมตร และสเกลนิ้ว โดยสเกลมิลลิเมตรจะแบ่งออกเป็นหลายส่วน ๆ ซึ่งใช้ในการวัดค่าต่ำกว่าหน่วยมิลลิเมตร และสเกลนิ้วจะแบ่งออกเป็นส่วนที่ใช้ในการวัดค่าต่ำกว่าหน่วยนิ้ว
มัลติเกเตอร์หรือเกจ็ตสำหรับวัดความลึก: ตลับเมตรมักมีมัลติเกเตอร์หรือเกจ็ตที่มุ่งเพื่อวัดความลึกของวัสดุ โดยมัลติเกเตอร์เป็นส่วนของตลับเมตรที่มีสเกลเดียวใช้ในการวัดความลึก
ใบของคำว่า “วีร์เนียร์” (Vernier) บนตลับ: ส่วนนี้จะใช้ในการอ่านค่าที่แม่นยำมากขึ้น โดยอ่านค่าที่อยู่ใกล้กับขอบบนของตลับเมตรและค่าในสเกลมิลลิเมตรหรือนิ้วบนเกจ็ตหรือมัลติเกเตอร์
จุดที่จับตรงด้านข้างของตลับ: เป็นจุดที่ใช้ในการยึดวัสดุที่จะถูกวัด โดยมักมีตัวจับปรับเพื่อให้สามารถปรับขนาดของจุดที่จับได้
การใช้ตลับเมตรต้องปฏิบัติตามความระมัดระวังและความรู้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและถูกต้อง เครื่องมือช่างนี้เป็นส่วนสำคัญของช่างและวิชาชีพอื่น ๆ ที่